Site icon บริษัท บุญสังฆภัณฑ์ จำกัด

ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพร่วมทำบุญบุญ สร้างพระสีวลีทองเหลือง 25 นิ้ว สูง 170 ซม.

สร้างพระสีวลี,ราคา พระสีวลี,พระสีวลีทองเหลือง,

วัดประดู่คงคาวนาราม. บ้านแวงน้อย. ตำบลโคกกุง. อำเภอแก้งครัอ. จังหวัดชัยภูมิ

รายนามเจ้าภาพร่วมสร้างพระสีวลีเถระ

  1. คุณสุทัศน์ ศรีพรม และครอบครัว,คุณกัลยา แดงอ่อน
    และร้านบูชาสังฆภัณฑ์,ร้านบุญสังฆภัณฑ์ รวมทั้งพนักงานทุกคน 15,000 บาท
  2. คุณเบญ ร้านพิจิตรสังฆภัณฑ์ เสาชิงช้า 5,000 บาท
  3. น.ส. วิรงรอง พรมมี 100 บาท
  4. Mi Mi@ 200 บาท
  5. คุณภาณุทัต BRIGHTON office55@ 500 บาท
  6. รองศาสตราจารย์ ดร. Surisak Prasanpan 500 บาท
  7. น้อย บุญยะลาด เฟช 300 บาท
  8. โสภิตสุดา คุ้มครองเล(ไลน์บุญ 200 บาท
  9. นางสาว วิชญา ใจกล้า 499 บาท
  10. คุณวลัย สแกขาว 1,000 บาท
  11. คุณอภิรดี สนธิชัย 300 บาท

“พระสีวลี มหาลาภ โภคทรัพย์”

มีคติความเชื่อในหมู่คนไทยว่า ผู้ใดได้บูชาพระสีวลีเถระแล้ว จะได้รับโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ซึ่งคนไทยก็เชื่ออีกว่าเคยมีผู้หนึ่งเคยได้รับมาแล้วในสมัยพุทธกาลก็คือ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเกิดในตระกูลพ่อค้ามีนามว่า สุภาวดี นางได้เลื่อมใสศรัทธาพระพุทธศาสนา และนับถือพระสีวลีเถระเป็นอย่างยิ่ง

               เมื่อแม่นางได้ฟังธรรมจนลึกซึ้ง พระสีวลีก็ให้ศีลและให้พรว่า “จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สิน เงินทองจากการค้าขาย เงินทองไหลมาเทมาสมความมุ่งมาดปรารถนาด้วยเถิด”

               หลังจากที่นางสุภาวดีได้รับพรจากพระสีวลีเถระแล้ว ไม่ว่านางและผู้เป็นบิดามารดาจะไปค้าขายที่ใด ก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีแต่กำไรหลั่งไหลเข้ามาทุกครั้งไป ซึ่งนางสุภาวดีนั้นได้เป็นที่รู้จักของคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือนางกวักนั่นเอง

ประวัติพระสีวลี เถระ เอตทัคคะผู้เลิศในทาง “ผู้มีลาภมาก”

พระสีวลีเถระ หรือ พระสีวลี เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า ถือว่าเป็น ๑ ในพระอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล

               ประวัตินั้น พระสีวลีเถระเป็นเจ้าชายในโกลิยวงศ์ ออกบวชในสำนักพระสารีบุตร บรรลุพระอรหันต์ในขณะที่ปลงเกศานั่นเอง และหลังจากผนวช ท่านเป็นผู้มีลาภสักการะมากด้วยกุศลกรรมที่ทำมาแต่อดีต ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง “ผู้มีลาภมาก”

               พระสีวลีเถระ เป็นพระโอรสของพระนางสุปปวาส ผู้เป็นพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงโกลิยะ อยู่ในพระครรภ์ถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน เมื่อทรงพระครรภ์ทำให้พระมารดาสมบูรณ์ด้วยลาภสักการะมาก เมื่อประสูติก็ประสูติง่าย ด้ายพุทธานุภาพที่ทรงพระราชทานพรว่า “ขอพระนางสุปปวาสาจงมีความสุข ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชบุตรผู้ไม่มีโรคเถิด”

               เมื่อประสูติและพระประยูรญาติขนานถวายพระนามว่า สีวลีกุมาร ในวันที่นิมนต์พระพุทธเจ้ามาเสวยภัตตาหารตลอด ๗ วัน สีวลีกุมารก็ได้ถือธมกรกกรองน้ำถวายพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ตลอด ๗ วัน

               ครั้นเจริญวัย ท่านได้ออกผนวชในสำนักพระสารีบุตร ได้บรรลุอรหันตผลในเวลาปลงเกศาเสร็จ จากนั้นมาท่านสมบูรณ์ด้วยลาภสักการะไม่ขาดด้วยปัจจัย ๔ ทั้งปวง ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก

               ทั้งนี้มีคติความเชื่อในหมู่คนไทยว่า ผู้ใดได้บูชาพระสีวลีเถระแล้ว จะได้รับโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ซึ่งคนไทยก็เชื่ออีกว่าเคยมีผู้หนึ่งเคยได้รับมาแล้วในสมัยพุทธกาลก็คือ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเกิดในตระกูลพ่อค้ามีนามว่า สุภาวดี นางได้เลื่อมใสศรัทธาพระพุทธศาสนา และนับถือพระสีวลีเถระเป็นอย่างยิ่ง

               เมื่อแม่นางได้ฟังธรรมจนลึกซึ้ง พระสีวลีก็ให้ศีลและให้พรว่า “จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สิน เงินทองจากการค้าขาย เงินทองไหลมาเทมาสมความมุ่งมาดปรารถนาด้วยเถิด”

               หลังจากที่นางสุภาวดีได้รับพรจากพระสีวลีเถระแล้ว ไม่ว่านางและผู้เป็นบิดามารดาจะไปค้าขายที่ใด ก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีแต่กำไรหลั่งไหลเข้ามาทุกครั้งไป ซึ่งนางสุภาวดีนั้นได้เป็นที่รู้จักของคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือนางกวักนั่นเอง

อ่านข่าวอื่นๆ:

Exit mobile version