การเพิ่มพลังบุญให้ตัวเอง คนทุกคนนั้นต่างมีบุญไม่เท่ากันน้อยบ้างมากบ้าง เรื่องนี้สำหรับเป็นการเร่งด่วนที่คนที่มีบุญน้อยหรือบุญไม่พอที่จะทำงานใหญ่ให้สำเร็จและทำการค้าสำคัญ ซึ่งครูบาอาจารย์ของผมเป็นผู้พิจารณาและรับรองว่าได้ผล
– บุญอันเกิดจากการภาวนา นั้น จะให้มีพลังมากขึ้น ต้องเริ่มพื้นฐานจากการทำทาน และการรักษาศีลก่อนเสมอ สำหรับการทำทานที่เป็นสังฆทาน ของที่นำไปถวายควรมีให้ครบในปัจจัยหลัก คือ มีอาหาร น้ำ เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค
ถ้าเป็นไปได้ และมีกำลังพอ ก็ควรมีชุดเครื่องบวช คือเครื่องอัฐบริขารของพระสงฆ์ พระพุทธรูป หนังสือธรรมะ หนังสือสวดมนต์ ข้าวของเครื่องใช้ และภัตตาหารประกอบ ตามความเหมะสม แล้วอุทิศบุญนี้ไปให้แก่ผู้ที่เราต้องการจะให้ และอธิษฐานขอให้บุญกุศลนี้ เป็นพละปัจจัยให้วิบากกรรมชั่วหรือวิบากกรรมไม่ดีต่าง ๆ ของเราหยุดการส่งผล และให้วิบากกรรมดีที่เราได้สร้างสะสมมาส่งผล ให้เกิดเป็นความสำเร็จในเรื่องต่างๆ ที่เราปรารถนา นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
– การภาวนา นั้น เป็นบุญสูงสุด ซึ่งยากแก่การปฏิบัติสำหรับบุคคลทั่วๆ ไป การปฏิบัตินี้จำเป็นจะต้องมีครูบาอาจารย์ ที่เป็นผู้รู้จริงคอยแนะนำ จะได้ไม่ผิดพลาด สำหรับฆราวาสหรือผู้ครองเรือนทั่วไปนั้น เพียงแค่รู้จักให้ทานด้วยปัญญา รักษาศีลให้ได้อย่างเคร่งครัดและมั่นคง ก็นับว่าได้บุญมากแล้ว แต่หากต้องการเพิ่มพลังบุญให้มากขึ้นไปอีก ด้วยการภาวนา ก็ให้เริ่มหัดภาวนาด้วยการไหว้พระสวดมนต์ก่อน ซึ่งการสวดมนต์นั้น ถือได้ว่าเป็นการทำสมาธิแบบเคลื่อนไหวอย่างหนึ่ง และสมาธิจากการสวดมนต์นี้ ก็จะเป็นพื้นฐานในการทำสมาธิแบบอื่น ๆ และในขั้นสูงต่อไป จนไปถึงขั้นสูงสุดของการภาวนาคือการเจริญปัญญา (วิปัสสนาภาวนา) ต่อไป
– การสะสมบุญ ด้วยการหมั่นให้ทานอยู่เป็นนิตย์ ย่อมช่วยลดช่วยผ่อนคลายวิบากกรรมชั่วได้ ในขณะเมื่อทำให้ตั้งอยู่ในองค์ประกอบของการให้ทานที่ครบถ้วน คือ จิตเจตนาที่บริสุทธิ์ วัตถุทานที่ทำนั้นบริสุทธิ์ ผู้รับที่รับทานนั้นบริสุทธิ์ และมีเนื้อนาบุญสูง
– การทำทาน คือ แรงหนุนสำคัญที่ทำให้เกิดวาสนาบารมีได้อย่างแน่นอน โดยให้ถือความยินดีในการให้ทาน และการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลคนดีมีศีลมีธรรม คนที่มีประโยชน์ต่อสังคม และส่วนรวม ตลอดจนคนทุกข์ยากเดือดร้อนทั้งหลายเป็นสำคัญ ย่อมนำมาซึ่งลาภยศ สรรเสริญจากผู้คนทั่วไป และตัวเราย่อมบังเกิดบุญบารมี ดวงชะตาที่ดีขึ้น ด้วยกระทำของตัวเองโดยแท้
– การสวดมนต์ภาวนา ทำสมาธิ พิจารณาธรรม จะทำให้จิตมีพลัง มีสติ มีปัญญาที่ถูกต้อง รู้เท่าทันต่อปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะจัดการดูแลแก้ไขชีวิตของตนได้อย่างเรียบร้อย อันจะนำไปสู่ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้
ตัวอย่างเคล็ดลับการเสริมสร้างพลังบุญเฉพาะเรื่อง
– กรณีที่มีวิบากกรรมหนัก ก็ต้องสร้างพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ รุนแรง เพื่อทุเลาและแก้ไขวิบากกรรมนั้นด้วยอย่างทันท่วงที เช่น สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ (ถ้ากำลังในทรัพย์ปัจจัยไม่พอ ก็ให้หาเป็นเจ้าภาพร่วม ตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการสร้าง )
สร้างวัด โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ สถานปฏิบัติธรรม อุทิศตัวเข้าบวชในบวรพุทธศาสนา ถ้าเป็นหญิงก็ให้บวชชี (หากไม่สะดวก ก็บวชแบบชีพราหมณ์ก็ได้) ถือศีล ปฏิบัติธรรม การบวช หรือปฏิบัติธรรม ถ้าเป็นไปได้อย่างน้อย 9 วัน ขึ้นไป แล้วอุทิศไปให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ต้องเกิดวิบากกรรมอันหนักนั้น ถ้าทำบุญใหญ่ ๆ ได้ หลายๆอย่าง และมากๆ ในห้วงเวลาเดียวกัน ก็จะยิ่งช่วยได้มาก การแก้ไขวิบากกรรมก็จะได้ผลเร็วยิ่งขึ้น
– สุขภาพไม่แข็งแรง เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่บ่อย ๆ การปล่อยชีวิตสัตว์ ไถ่ชีวิตสัตว์ ถือว่าได้บุญ อันเนื่องมาจากการที่ได้ต่อชีวิตให้สัตว์ อานิสงส์จะทำให้มีอายุยืน สุขภาพแข็งแรง ช่วยคลายวิบากกรรมเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย
เคล็ดลับให้ได้บุญมากยิ่งๆ ขึ้น ให้ไปซื้อหรือไถ่ชีวิตสัตว์ที่เขากำลังจะฆ่า เช่น ไปซื้อปลาที่เขากำลังจะฆ่าและนำเอาไปทำอาหาร และก่อนที่จะนำปลาไปปล่อย ให้นำไปถวายพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญที่ดีก่อน เมื่อท่านรับและอนุโมทนาแล้ว เราก็ขออนุญาตนำปลานั้นคืนมา เพื่อที่จะเอาไปปล่อย (เพราะเราถวายปลาไปแล้ว และปลานั้นก็ได้เป็นของพระไปแล้ว) ด้วยการถวายปัจจัยชำระหนี้ค่าปลาให้แก่พระสงฆ์ ตามจำนวนราคาที่เราซื้อมา หรือมากกว่า บุญนี้ก็จะได้มากกว่าการที่เราไปซื้อปลา และนำไปปล่อยเอง เพราะเป็นบุญที่ได้ทวีคูณเพิ่มขึ้น ตามค่าตัว หรือคุณธรรมของพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญ รวมไปถึงการถวายยารักษาโรค เป็นเจ้าภาพดูแลรักษา
พระสงฆ์ที่อาพาธ (ป่วย)
– วิบากกรรมอันเกิดจากการทำแท้ง ก็เป็นวิบากกรรมหนัก ประเภทนี้ขอให้สังเกตุว่ามักจะทำอะไรไม่ขึ้น เหมือนมีอะไรมาขัดขวางอยู่ตลอดเวลา บางที เหมือนทำท่าว่าจะได้ จะสำเร็จแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ ไม่สำเร็จ เรียกว่ากินแห้ว ฟลาว์ไปทุกที นั่นเป็นเพราะกรรมที่เคยไปตัดโอกาสในการมีชีวิตของผู้อื่น นอกจากจะแก้ไขด้วยการสร้างพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ รุนแรง ด้วยการปฏิบัติดังที่ได้แนะนำข้างต้นแล้ว ก็ให้เสริมด้วยการไปซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ของเด็กทารก เช่น ขวดนม นมผง ผ้าอ้อม รถเข็นเด็ก ของเล่นเด็ก ฯลฯ แล้วก็นำไปถวายให้แก่พระสงฆ์ และก็ใช้วิธีการเดียวกับเคล็ดลับการปล่อยปลาข้างต้น แล้วก็นำของเหล่านั้น ไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กอ่อนต่อไป
– เรียนหนังสือไม่ดี (ทั้งที่ขยันก็แล้ว)ความจำไม่ดี คิดอ่านอะไรก็ช้า ปัญญาไม่แล่น จะเล่าเรียนเขียนอ่านอะไร ก็มีปัญหามีอุปสรรคไปหมด เป็นวิบากกรรมที่เกิดจากการไปขัดขวางไม่ให้คนได้มีความรู้ เคยไปบั่นทอนสติ และปัญญาของผู้อื่นด้วยประการต่างๆ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนในการกระทำนั้น
เช่น ผลิต จำหน่ายสุรา เครื่องดองของมึนเมา ยาเสพติด ทั้งหลายทำให้คนหลงใหลในอบายมุข ชี้นำสั่งสอนในสิ่งที่ผิดไม่ถูกต้องตามธรรมให้ผู้คน ได้ปรามาสหรือ ดูหมิ่นดูแคลนผู้มีความรู้ ผู้ทรงศีลทรงธรรม
การทุเลาและแก้วิบากกรรมในกรณีนี้ ให้ไหว้พระสวดมนต์ ขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งหลายที่เราได้เคยละเมิด ล่วงเกินมา มากๆ บ่อยๆ ปฏิบัติธรรม สร้างธรรมทานด้วยการแจกหนังสือธรรมะ สื่อธรรมะของครูบาอาจารย์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ หนังสือสวดมนต์
(กรณีหนังสือธรรมะต้องมั่นใจว่า เป็นธรรมะที่ถูกต้องด้วย ถ้าไม่แน่ใจต้องให้ครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นผู้รู้จริงพิจารณาก่อน) ถวายสื่อการเรียนการสอนธรรมะ ถวายหนังสือพระไตรปิฎก เป็นเจ้าภาพ หรือร่วมสนับสนุน อุปถัมภ์ค้ำจุนเรื่องการประพฤติปฏิบัติธรรม การศึกษาเล่าเรียน เช่น ให้ทุนจัดฝึกอบรมการปฏิบัติธรรม สร้างวัด สถานปฏิบัติธรรม ให้ทุนการศึกษา พระสงฆ์ เณร นักเรียน นักศึกษาที่ดีมีศีลมีธรรม
ข้อควรปฏิบัติในการดำรงชีวิตในแต่ละวันเพื่อเพิ่มพลังบุญ
- 1. ตั้งใจรักษาศีล ด้วยการสมาทานศีล (วิธีปฏิบัติดังได้กล่าวมาแล้วในเล่ม)
- 2. สวดมนต์ด้วยบทสวดต่างๆ อย่างน้อยที่สุดให้ได้ 1 บทสวด วันละครั้งก่อนนอน โดยเฉพาะบทสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ (อิติปิโส ฯ…)
- 3. นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 15 นาที (หรือเดินจงกรมก็ได้)
- แผ่เมตตา อุทิศบุญ ให้แก่เทพเทวดา เจ้ากรรมนายเวร บุคคลที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
- 5. อธิษฐานขอให้ผลบุญนี้ ไปเป็นพลังเพื่อความสำเร็จต่าง ๆ ดังที่เราปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นทางโลก หรือทางธรรม หรือทั้งทางโลกและทางธรรม
- 6. ทำทาน ให้ได้ในแต่ละวัน ทุก ๆ วัน ตามกำลัง เช่น ใส่บาตร ถวายสังฆทาน หรืออื่น ๆ ตามความเหมาะสม หากไม่สะดวก ไม่มีโอกาสที่จะทำได้ทุกวัน ก็ให้นึกถึงเรื่องการให้ทานไว้ทุกวัน โดยตั้งจิตเจตนาไว้อยู่เสมอว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วจะไปทำทาน เช่น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุก ๆ วันอาทิตย์ ควรตั้งสัจจะไว้ ไม่ควรคิดว่า เอาไว้เมื่อมีความพร้อม มีเวลา มีโอกาสแล้วจึงจะไปทำ เพราะถ้าคิดอย่างนั้นแล้ว ส่วนมากจะหาโอกาสได้ยาก กิเลสมักหาข้ออ้างได้เสมอ
- การอธิษฐานต่าง ๆ ให้ตั้งจิตมุ่งมั่นแน่วแน่ ปักลงไปในเป้าหมายอย่างแท้จริง ให้มั่นใจในพลังบุญของเรา มองเห็นภาพความสำเร็จเกิดขึ้นอย่างชัดเจนแน่นอน ไม่ลังเลสงสัย (ให้คิดบวกเสมอ) เมื่อผลสำเร็จยังไม่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งท้อแท้ นั่นเป็นเพราะองค์ประกอบของเหตุปัจจัยที่ทำลงไปยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ และในแต่ละคนก็มีไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน
ให้ปฏิบัติต่อเนื่องต่อไป ช้าเร็วอย่างไรก็ต้องสำเร็จแน่นอน ยังไงก็ต้องได้เห็น บางทีความสำเร็จอาจมาโดยคาดไม่ถึงเสียด้วยซ้ำไป และเมื่อสำเร็จแล้ว ก็ให้ทำต่อไป จะเป็นการเพิ่มพลังบุญของเราไปเรื่อยๆ หากยังต้องเวียน ว่าย ตายเกิด อยู่ในวัฏสังสารนี้ พลังบุญที่เราสะสมไว้นี้ ก็จะเป็นทุนรอนในภพชาติหน้าต่อไป และเมื่อมีบุญมากพอแล้วต้องรู้จักการเชื่อมบุญด้วย
จากหนังสือเรื่อง ถ้ารู้เคล็ดแล้วทำถูกวิธี ทั้งรวยและรุ่งไปนานแล้ว โดย ธ.ธรรมรักษ์