อานนิสงส์ถวายอาสนะ ( เตียง ตั่ง พรม ผ้าปูลาด เสื่อ และอาสนะที่เป็นที่นั่งที่นอนต่างๆ
อานนิสงส์ถวายอาสนะ ( เตียง ตั่ง พรม ผ้าปูลาด เสื่อ และอาสนะที่เป็นที่นั่งที่นอนต่างๆ )
กุลบุตรคนหนึ่งอยู่ในเมืองสาวัตถี เขามีจิตใจเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา ครั้นได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ก็มีศรัทธาอย่างแรงกล้าจึงออกบวชในพระพุทธศาสนา ได้ปฏิบัติเจริญสมณธรรม ในไม่ช้าก็ได้บรรลุพระอรหันต์ ต่อมาพระเถระปรารถนาจะเฝ้าพระพุทธเจ้าที่ประทับอยู่ ณ กรุงราชคฤห์ จึงเดินทางมาเฝ้าในระหว่างทางได้เข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้อาหารพอประมาณแล้วจึงแสวงหาที่สำหรับทำภัตกิจ
ครั้งนั้นมีอุบาสิกาคนหนึ่ง ครั้นได้เห็นพระเถระก็มีจิตเลื่อมใสจึงอาราธนาให้ไปทำภัตกิจที่บ้านของตน นางได้จัดตั่งที่นั่ง และเอาผ้าผืนหนึ่ง และเอาผ้าผืนหนึ่งมาปูถวายเป็นที่นั่งทำภัตกิจ เมื่อพระเถระทำภัตกิจเสร็จเสร็จแล้วนางก็ได้ถวายตั่งและผ้าผืนนั้นแก่พระเถระและตั้งความปรารถาว่า ด้วยอานิสงส์แห่งการถวายผ้าในครั้งนี้ขอให้บัลลังก์ทองจงเกิดมีแก่ดิฉันในภพหน้าด้วยเทอญ พระเถระจึงโมทนาว่า “ของความปรารถนาของเธอจงสำเร็จ” หลังจากนั้นจงแสดงอานิสงส์แห่งการถวายเตียง ตั่ง อาสนะว่า “บุคคลใดได้ถวายเตียง ตั่ง อาสนะเป็นที่นั่งที่นอน บุคลนั้นจะได้ไปเกิดในตระกูลขัตติยะกษัตริย์บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติและบริวาลเป็นอันมาก” นางอุบาสิกาเมื่อได้ฟังอานิสังคกถาอย่างนั้นยิ่งมีจิตใจเลื่อมใสเป็นทวี จึงได้นำเตียง ตั่ง อาสนะที่เป็นที่นั่งที่นอนต่างๆจำนวนมากตามไปถวายพระเถระ
ต่อมาเมื่ออุบาสกท่านนั้นตายไปแล้ว ได้ไปบังเกิดเสวยทิพยสมบัติในเทวโลกสวรรค์มีชื่อว่า นางนางภัททปีฐทายิกาเทพธิดา มีวิมานทองสูง 12 โยชน์ ท่ามกลางวิมานทองแห่งนั้นได้มีบัลลังก์ทองสำหรับเป็นที่นั่งเกิดสูงได้ 1 โยชน์ มีบริวาล 1000 คน เป็นบริวาล และเมื่อเคลื่อนจากเทวโลกสวรรค์ไปแล้ว นางก็ได้ไปเกิดเป็นธิดาของกษัตริย์ในมนุษย์โลก